e-Book สำหรับเจ้าของโรงงาน & นักลงทุน e-Book for factory owners & investors

เปรียบเทียบ PEB vs โครงสร้างคอนกรีต สำหรับเจ้าของโรงงาน

หนึ่งในคำถามสำคัญก่อนสร้างโรงงานหรือโกดังใหม่คือ “ควรใช้โครงสร้างเหล็ก PEB หรือโครงสร้างคอนกรีตดี?”
e-Book เล่มนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัด ทั้งในมุมงบประมาณ ระยะเวลาก่อสร้าง ความยืดหยุ่น การใช้งานจริง และการขยายในอนาคต เพื่อตัดสินใจเลือกโครงสร้างที่เหมาะที่สุดกับธุรกิจของคุณ

เนื้อหาทั้งหมดเรียบเรียงจากประสบการณ์หน้างานจริงของทีม Prime Build ที่ทำทั้งโรงงานและโกดังโครงสร้างเหล็ก PEB ให้เจ้าของกิจการหลากหลายอุตสาหกรรม เป้าหมายไม่ใช่แค่บอกว่า “อะไรดีกว่า” แต่คือช่วยให้คุณเลือกสิ่งที่เหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุด

เล่มนี้ตอบคำถามอะไรให้คุณ?

  • PEB คืออะไร เทียบกับโครงสร้างคอนกรีตแล้วต่างกันอย่างไรในมุมเจ้าของโรงงาน
  • โครงสร้างแบบไหนคุ้มค่ากว่า ถ้าต้องการขยายกำลังผลิตในอนาคต
  • เคสไหนควรใช้ PEB เป็นหลัก เคสไหนคอนกรีตยังตอบโจทย์อยู่
  • จะใช้จุดแข็งของทั้งสองระบบร่วมกันอย่างไร ให้ได้ทั้ง “ความแข็งแรง” และ “ความเร็ว–ความยืดหยุ่น”
ดูสารบัญ e-Book
View Table of Contents

บทที่ 1 – ภาพรวม: PEB คืออะไร? โครงสร้างคอนกรีตคืออะไร?

ก่อนจะเปรียบเทียบ เราต้องเข้าใจ “ตัวตน” ของแต่ละระบบโครงสร้างก่อน ว่าออกแบบมาเพื่ออะไร และเหมาะกับสถานการณ์แบบไหน

1.1 โครงสร้างเหล็ก PEB (Pre-Engineered Building)

PEB คือระบบโครงสร้างเหล็กที่ถูก“ออกแบบล่วงหน้า”ด้วยซอฟต์แวร์วิศวกรรม ให้ใช้เหล็กในปริมาณที่ “พอดี” กับแรงจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละตำแหน่ง จากนั้นผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ในโรงงาน แล้วนำมาประกอบหน้างาน

  • จุดเด่น: ใช้เหล็กอย่างมีประสิทธิภาพ น้ำหนักโครงสร้างเบากว่า ทำงานหน้างานเร็ว
  • เหมาะกับ: โรงงาน–โกดังที่ต้องการพื้นที่โล่งมาก (Clear Span), โครงการที่ต้องการเสร็จเร็ว
  • ภาพรวมต้นทุน: มักคุ้มค่ากว่าในระยะยาวเมื่อคิดรวมทั้งเวลา–การใช้งาน–การขยายในอนาคต

1.2 โครงสร้างคอนกรีต (RC – Reinforced Concrete)

โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย ทั้งเสา–คาน–พื้นคอนกรีต วิธีการก่อสร้างแบบดั้งเดิม ใช้แบบหล่อ เทคอนกรีต รอให้เซ็ตตัว แล้วจึงถอดแบบ และทำงานต่อขั้นตอนถัดไป

  • จุดเด่น: ความรู้สึกแข็งแรง–ทนทาน, เสียงทึบ, ความสึกหรอผิววัสดุช้ากว่าในบางกรณี
  • เหมาะกับ: อาคารสำนักงานหลายชั้น, อาคารที่ต้องการผนังทึบหนา, อาคารที่ต้องการรูปทรงซับซ้อนบางประเภท
  • ข้อจำกัด: ใช้เวลาหน้างานนานกว่า น้ำหนักโครงสร้างมากกว่า ฐานรากมักมีต้นทุนสูง

ในโปรเจกต์จริงของ Prime Build เรามักใช้จุดแข็งของทั้งสองระบบร่วมกัน เช่น โครงสร้าง PEB สำหรับส่วนโรงงาน/โกดัง และโครงสร้างคอนกรีตสำหรับส่วน Office–Showroom ด้านหน้า เพื่อให้ได้ทั้งภาพลักษณ์และประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในงบประมาณที่เหมาะสม

บทที่ 2 – เทียบกันตรง ๆ: งบประมาณ & ค่าใช้จ่ายรวม

หลายคนยังเชื่อว่า “คอนกรีตถูกกว่าเหล็ก” หรือ “เหล็กแพงกว่าเสมอ” แต่ในมุมเจ้าของโรงงาน สิ่งสำคัญไม่ใช่ราคาโครงสร้างเพียงอย่างเดียว แต่คือ“ต้นทุนรวมตลอดอายุการใช้งาน + ความเร็วในการเริ่มผลิตได้จริง”

2.1 ต้นทุนโครงสร้างโดยตรง

  • PEB: ใช้เหล็กตามแรงที่เกิดจริง น้ำหนักโครงสร้างโดยรวมเบากว่า ทำให้ต้นทุนโครงสร้างในหลายกรณีใกล้เคียง หรือถูกกว่าโครงสร้างคอนกรีตเมื่อคิดรวมทั้งวัสดุและแรงงาน
  • คอนกรีต: วัสดุคอนกรีตต่อหน่วยอาจดูไม่แพง แต่เมื่อคิดรวมเหล็กเสริม, แบบหล่อ, แรงงาน, เวลา และฐานรากที่ต้องรองรับน้ำหนักมาก ๆ ต้นทุนรวมมักสูงกว่าที่หลายคนคาด

2.2 ต้นทุนทางอ้อมและค่าเสียโอกาส

ตัวอย่างต้นทุนทางอ้อมที่มักถูกมองข้าม:

  • ค่าเช่าโรงงานชั่วคราว หรือโกดังชั่วคราวในระหว่างรออาคารใหม่เสร็จ
  • ค่าเสียโอกาสจากการผลิตไม่ได้ตามแผน เพราะอาคารเสร็จช้ากว่ากำหนด
  • ค่าแรงและค่าใช้จ่ายหน้างานที่ยืดเยื้อจากงานเปียก (Wet Process) ของคอนกรีต

โครงสร้าง PEB ที่ผลิตจากโรงงานและประกอบหน้างานเร็ว ช่วยลดต้นทุนทางอ้อมเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เมื่อคิดรวมทุกอย่างแล้ว มักคุ้มค่ากว่าในมุมเจ้าของโรงงาน

2.3 การควบคุมงบประมาณ

โครงสร้าง PEB ที่ออกแบบด้วยข้อมูลชัดเจน และผลิตจากโรงงาน ทำให้ควบคุมปริมาณวัสดุได้ดี โอกาสที่ปริมาณเหล็กหรือวัสดุอื่น ๆ จะบานปลายลดลง เมื่อเทียบกับงานคอนกรีตที่หน้างานอาจมีการแก้แบบ หรือปรับหน้างานระหว่างทางบ่อยครั้ง

หากคุณต้องการเห็นตัวอย่างกรอบงบประมาณของโกดังขนาดต่าง ๆ แนะนำให้อ่าน e-Book: ตัวอย่างงบประมาณโกดังขนาดยอดนิยม พร้อมรายการวัสดุ

บทที่ 3 – ระยะเวลาก่อสร้าง & ผลกระทบต่อธุรกิจ

เวลา คือ “ต้นทุนที่มองไม่เห็น” แต่ส่งผลชัดเจนต่อกำไรขาดทุนของธุรกิจ การเลือกโครงสร้างที่ช่วยให้คุณ “เปิดโรงงานได้เร็วขึ้น” อาจมีค่ามากกว่าการประหยัดเพียงค่าก่อสร้างส่วนหนึ่ง

3.1 เวลาหน้างาน: PEB ชนะขาดในงานโกดัง–โรงงาน

  • PEB: ส่วนใหญ่เวลาใช้ไปกับการออกแบบและผลิตในโรงงาน เมื่อถึงหน้างานจะเป็นงานประกอบเป็นหลัก ทำงานซ้อนขั้นตอนอื่นได้
  • คอนกรีต: ต้องทำงานตามลำดับขั้น (Form – Rebar – Pour – Cure) ทำให้เวลาหน้างานยาวกว่า และเสี่ยงต่อผลกระทบจากสภาพอากาศ

3.2 ผลต่อการวางแผนธุรกิจ

อาคารที่เสร็จเร็วขึ้นหมายถึง:

  • เริ่มผลิตหรือเก็บสินค้าได้เร็วขึ้น รับออเดอร์เพิ่มได้ทันเวลา
  • ลดช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างโรงงานเดิม–โรงงานใหม่
  • ลดความเสี่ยงจากดีเลย์ที่ส่งผลต่อสัญญากับลูกค้าปลายทาง

Prime Build เน้นการวางแผนระยะเวลาก่อสร้างร่วมกับแผนธุรกิจของคุณอย่างจริงจัง เพื่อให้ตารางงานก่อสร้างสอดคล้องกับตารางการผลิต การย้ายเครื่องจักร และแผนรับ–จ่ายสินค้า

บทที่ 4 – ความยืดหยุ่น การใช้งานจริง และการขยายในอนาคต

โรงงานหรือโกดังในวันนี้ อาจไม่เหมือนเดิมในอีก 3–5 ปีข้างหน้า คำถามคือโครงสร้างที่คุณเลือกช่วยหรือขวางการเติบโตของธุรกิจ?

4.1 พื้นที่โล่ง vs เสากลาง

  • PEB: สามารถออกแบบให้เป็น Clear Span ได้ในช่วงกว้างมาก ทำให้ภายในไม่มีเสากลางขวางทาง Layout เครื่องจักร–ชั้นวาง–การไหลของสินค้า
  • คอนกรีต: มักมีเสากลางตามจังหวะโครงสร้าง ทำให้การจัด Layout ภายในติดข้อจำกัด โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนรูปแบบการผลิตในอนาคต

4.2 ความยืดหยุ่นในการต่อเติม–ขยาย

  • PEB สามารถขยาย Bay ด้านข้าง–ด้านหลังได้ง่าย เมื่อวางแผนโครงสร้างเผื่อไว้ตั้งแต่แรก
  • คอนกรีตเมื่อต้องการต่อเติมมักต้องมีงานรื้อ–เสริมโครงสร้างที่ซับซ้อนและใช้ต้นทุนสูง

4.3 สภาพแวดล้อมการทำงาน

ทั้ง PEB และคอนกรีตสามารถออกแบบให้เป็นสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีได้ หากเลือกสเปควัสดุและระบบประกอบอาคารเหมาะสม เช่น ฉนวนกันความร้อน ระบบระบายอากาศ และแสงสว่าง แต่ในมุมการติดตั้งและอัปเกรดระบบเหล่านี้

  • โครงสร้าง PEB เปิดช่องทางการเดินท่อ–สายไฟ– Duct ได้สะดวกกว่าในหลายกรณี
  • งานเจาะ–เสริมบนโครงสร้างคอนกรีตต้องระมัดระวังเรื่องโครงเหล็กเสริม (Rebar) และโครงสร้างรับแรง

อยากดูแนวคิดการออกแบบที่เผื่อการขยายตั้งแต่แรก?

Prime Build มีตัวอย่าง Conceptual Design สำหรับโกดัง–โรงงานที่วางแผนเผื่อการขยายในอนาคต ทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง คุณสามารถใช้เป็นไอเดียในการออกแบบโรงงานของตัวเองได้

ดูหน้า Conceptual Design

บทที่ 5 – สรุป: โรงงานแบบไหนเหมาะกับ PEB / คอนกรีต / ผสมผสาน

ไม่มีคำตอบเดียวว่า “PEB ชนะทุกกรณี” หรือ “คอนกรีตดีที่สุดเสมอ” แต่เราสามารถสรุปแนวทางกว้าง ๆ ให้เจ้าของโรงงานใช้เป็น Framework ในการตัดสินใจได้ดังนี้:

5.1 เคสที่เหมาะกับ PEB เป็นหลัก

  • โรงงาน–โกดังที่ต้องการพื้นที่โล่งมาก, มีการใช้ Forklift และชั้นวางสูง
  • โปรเจกต์ที่ต้องการเปิดใช้งานเร็ว เพื่อลดค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ
  • เจ้าของกิจการที่วางแผนขยายกำลังผลิตใน 3–5 ปีข้างหน้า
  • โครงการที่ต้องการคุมงบประมาณรวม (รวมเวลา+ต้นทุนทางอ้อม) ให้คุ้มค่าที่สุด

5.2 เคสที่เหมาะกับคอนกรีตมากกว่า

  • อาคารสำนักงานหลายชั้นที่เน้นผนังทึบ, ห้องประชุมเยอะ, งานตกแต่งภายในสไตล์ออฟฟิศ
  • อาคารที่ต้องการรูปทรง/สถาปัตยกรรมบางประเภทที่ตอบโจทย์ด้วยคอนกรีตได้ง่ายกว่า

5.3 เคสที่ดีที่สุดคือ “ผสมผสาน”

สำหรับเจ้าของโรงงานจำนวนมาก ทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุดคือการใช้ PEB สำหรับส่วนโกดัง–ผลิต และคอนกรีตสำหรับส่วน Office–Showroom แล้วออกแบบให้สองระบบนี้ทำงานร่วมกันอย่างสวยงามและมีประสิทธิภาพ

Prime Build เชี่ยวชาญการออกแบบและก่อสร้างแบบ “Hybrid Structure” ที่ดึงจุดแข็งของแต่ละระบบมาใช้ให้เหมาะกับฟังก์ชันจริงของธุรกิจ ไม่ยึดติดกับวัสดุใดวัสดุหนึ่งเพียงอย่างเดียว

ให้ Prime Build ช่วยวิเคราะห์เคสจริงของคุณ

หลังจากอ่าน e-Book เล่มนี้ คุณอาจพอเห็นภาพแล้วว่าโรงงานหรือโกดังของคุณน่าจะเหมาะกับ PEB, คอนกรีต หรือแบบผสมผสาน แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายควรอิงจากข้อมูลจริงของที่ดิน ลักษณะการใช้งาน และแผนธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ

ทีม Prime Build พร้อมช่วยคุณวิเคราะห์แบบไม่ผูกมัด ว่าโครงสร้างแบบไหนให้ “ความคุ้มค่า–ความยืดหยุ่น–ความเสี่ยงต่ำ” ที่สุดสำหรับโปรเจกต์ของคุณ

ขั้นตอนง่าย ๆ

  1. เตรียมข้อมูลเบื้องต้นจาก e-Book Checklist ข้อมูลที่ควรเตรียมก่อนคุยผู้รับเหมา
  2. ดูแนวทางการวางแผนงบประมาณจาก คู่มือวางแผนสร้างโกดัง PEB ให้คุ้มงบ
  3. ส่งข้อมูลทั้งหมดให้ทีม Prime Build ผ่านฟอร์ม หรือ Line Official
ส่งข้อมูลโปรเจกต์ให้ทีมงานช่วยประเมิน ปรึกษาเบื้องต้นผ่าน Line Official

แนะนำให้อ่าน e-Book ชุด PEB ของ Prime Build ครบทั้ง 5 เล่ม:

หลังจากอ่านเล่มนี้ แนะนำให้ลองใช้ เครื่องมือประมาณราคาโกดัง–โรงงาน PEB เบื้องต้นของ Prime Build เพื่อดูกรอบงบประมาณในเคสของคุณเอง